เกิดเป็นหญิงนี้ลำบากแท๊ !! เพราะเป็น ‘สตรี’ จึงเจ็บปวด กับ 7 ความเชื่อโบราณคร่ำครึที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเหลืออยู่ในโลก!?


เกิดเป็นหญิงนี้ลำบากแท๊ !! เพราะเป็น ‘สตรี’ จึงเจ็บปวด กับ 7 ความเชื่อโบราณคร่ำครึที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเหลืออยู่ในโลก!?

ไม่ว่าโลกของเราจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน สิ่งที่ดูจะเป็นเรื่องคู่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์เราและไม่มีวี่แววว่าจะเลือนหายไปเลย ก็คงเป็นเรื่องราวความเชื่อเก่าแก่ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ที่มีทั้งเรื่องที่สมเหตุสมผลและเรื่องที่สวนให้สงสัยว่า…ทำไปทำไม!?

แต่ถึงจะสงสัยหรืออยากตั้งคำถามแค่ไหน แต่ดูเหมือนจะยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยอมทำตามความเชื่อโบราณคร่ำครึเหล่านั้นโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น 7 พิธีกรรมดั้งเดิมที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้กับเหล่าสตรีเพศโดยเฉพาะ แต่กลับไม่คำนึงถึงความทรมานที่พวกเธอได้รับเลยแม้แต่น้อย

1. การบังคับให้กินในสาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย

ดูเหมือนสาวๆ ที่นี่จะหมดสิทธิ์กลัวอ้วน เพราะพวกเธอจะถูก ‘ขุน’ ตั้งแต่เด็กด้วยนมอูฐ 5 แกลลอน และอาหารประเภทธัญพืช 4 ปอนด์เป็นประจำทุกวัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานในอนาคต และแน่นอนว่าไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหนหรอกที่จะกินอาหารปริมาณนี้ได้หมด จึงไม่แปลกที่พวกเธอส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้กินจนต้องอาเจียนออกมา และก็จะโดนบังคับให้เก็บอาเจียนของตัวเองกินเข้าไปให้หมด แถมถ้าใครไม่กินให้ครบตามปริมาณหรือจำนวนวันที่กำหนดก็จะถูกลงโทษ


2. บังคับให้ร้องไห้หนักๆ ก่อนแต่งงานในประเทศจีน

เป็นอีกความเชื่อแปลกๆ ของหมู่บ้านในมณฑลเสฉวน ที่เจ้าสาวซึ่งกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานจะต้องร้องไห้คืนละ 1 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือนก่อนแต่งงาน แถมหลังจากร้องไห้ไปได้ 10 วันแม่ของเจ้าสาวก็ต้องมาร้องไห้ด้วย และถัดไปอีก 10 วันญาติฝ่ายเจ้าสาวก็ต้องมาร้องไห้ด้วย เพราะเชื่อกันว่าวิธีนี้จะเป็นการขจัดความทุกข์ให้หมดไปก่อนแต่งงาน แม้มันจะแลกกับสุขภาพจิตของตัวเจ้าสาวและคนในครอบครัวก็ตาม แถมบางครั้งถ้าเจ้าสาวร้องไม่ออก คนในบ้านก็จะพยายามทำทุกวิถีทางให้เธอร้อง


3. การขลิบอวัยวะเพศหญิงในยูกันดา

แม้จะมีการรณรงค์ต่อต้านมากมายเกี่ยวกับการขลิบอวัยวะเพศหญิง เพราะหากทำไม่สะอาดหรือผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึง ชีวิต และยังกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ถูกขลิบอย่างมาก แต่ชนเผ่า Sabiny ในประเทศยูกันดาก็ยังคงทำพิธีกรรมนี้สืบต่อมาเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่ามันเป็นการแสดงถึงความเป็นสาวเต็มตัว และยังเป็นการแสดงความจงรักภักดีกับสามีอีกด้วย


4. การลักพาตัวของชาวยิปซี

แม้จะเหลือไม่มาก แต่ก็ยังมีชาวยิปซีจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ทั่วไปยุปโรป และไม่ว่ายุคสมัยจะผ่านไปมากแค่ไหน ความเชื่อของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามไปเลย เพราะชายชาวยิปซีส่วนใหญ่ยังเชื่อในเรื่องของการแต่งงานโดยใช้วิธีลักพาตัว ผู้หญิงที่ตนชอบมาซ่อนไว้ไม่ให้ใครหาเจอเป็นเวลา 3 – 5 วัน และหลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไป เขาก็จะได้สิทธิในการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นทันที โดยไม่สนใจว่ามันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่


5. ผู้หญิงฟันฉลามแห่งสุมาตรา

ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าคนบนเกาะ Mentawai ทำแบบนี้กับผู้หญิงไปทำไม แต่ที่แน่ๆ คือเมื่อเริ่มโตเป็นสาว พวกเธอจะถูกเหลาฟันทุกซี่ด้วยมีดจนดูแหลมคมเหมือนฟันของฉลาม และเป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นการทำให้ดูน่ากลัวจนผู้ชายไม่กล้าเข้าใกล้ หรืออาจมีไว้เพื่อป้องกันตัวเองยามคับขัน…แม้มันจะทำให้สุขภาพช่องปากเธอแย่ลงก็ตาม


6. ทุบตีเพื่อทดสอบความรักในบราซิล

แม้การแต่งงานจะเป็นสิ่งสวยงามและควรจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีความสุขที่สุด แต่สำหรับสาวๆ ในบางพื้นที่ของประเทศบราซิลแล้ว พวกเธอจะถูกทดสอบอดทนด้วยสิ่งที่ผิดมนุษย์อย่างที่สุดนั่นคือการถูกลักพาตัว ไปจากบ้าน และโดนทุบตีจากคนแปลกหน้าอย่างรุนแรง จึงไม่แปลกที่จะมีการรายงานผู้เสียชีวิตจากประเพณีนี้จำนวนมาก แต่ที่แปลกคือ…ไม่มีค่อยการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในคดีนี้


7. บังคับให้สักเพื่อสร้างเสน่ห์ในบราซิลและปารากวัย

ไม่ใช่สาวๆ ทุกคนที่อยากมีรอยสัก แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่เกิดในบางพื้นที่บราซิลและปารากวัย มันเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องมีรอยสักบนแผ่นหลัง หน้าอก หรือบนหน้าท้อง เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้ผู้หญิงดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น และถ้าคุณปฏิเสธที่จะสัก…ครอบครัวของคุณจะหาทางพาคุณไปสักให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม



ทีมา:upyim